อยู่ดีๆ ก็หาย คนขายไลน์ไปไม่ตอบ สักพักโดนบล็อก ... สงสัยโดนโกงจากการซื้อของออนไลน์แล้วแน่ๆ ถ้าจ่ายเงินแล้วไม่ได้ของแบบนี้ เราจะทำอะไรได้บ้าง?
ขาช้อปออนไลน์ที่ซื้อของกันเพลินๆ โอนเงินกันรัวๆ จากนั้นก็รอวันสองวันของก็มาส่งถึงที่ เหตุการณ์แบบนี้เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับขาช้อปทุกคน แต่ก็มีขาช้อปบางคนที่โอนเงินแล้วไม่ได้ของ อยู่ดีๆ ร้านค้าก็หาย ไลน์ไปคนขายก็ไม่ตอบ สักพักโดนบล็อก รอแล้วรออีก ทวงแล้วทวงอีก สุดท้ายก็ไม่ได้ของ เงินที่โอนไปก็เสียฟรี
เราจึงมีวิธีจัดการกับปัญหาเวลาซื้อของออนไลน์แล้วไม่ได้ของมาบอก เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก ขาช้อปจะได้ช้อปอย่างมีความสุข ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป
ถ้าโดนโกงออนไลน์จะทำอย่างไร
1. แคปหน้าจอทั้งหมดแล้วพรินท์ออกมา
เจอแบบนี้อันดับแรกต้องแคปหลักฐานเก็บไว้รัวๆ โดยหน้าที่ต้องแคปไว้ประกอบด้วย
• หน้าเว็บไซต์ที่ขายของ รูปโปรไฟล์ของร้านค้า
• ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เลขที่บัญชีของร้านค้า
• ข้อความในแชทที่เราพูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้า ไม่ว่าจะเป็นการสอบถาม สั่งซื้อ ยืนยันการชำระเงิน ฯลฯ
• หลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชี เช่น สลิปโอนเงิน
• สมุดบัญชีธนาคาร
• สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเรา
พร้อมใส่คำบรรยายกำกับว่าแต่ละภาพที่แคปออกมานั้นคืออะไร
2. แจ้งตำรวจเพื่อดำเนินคดีและออกคำสั่ง “อายัดบัญชี”
นำหลักฐานทั้งหมดเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ (สน.ที่ได้โอนเงิน) ให้เร็วที่สุดหรือภายใน 3 เดือนตั้งแต่วันที่รู้ว่าถูกโกง หรือจะเข้าแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ที่ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ถนนแจ้งวัฒนะก็ได้ ซึ่งจะมีความสามารถทางด้านเทคโนโลยีในการติดตามหาตัวคนร้ายได้รวดเร็ว (แต่ก็ต้องเดินทางมาขึ้นศาลที่กรุงเทพเช่นกัน)
ต้องระบุว่าต้องการแจ้งความเพื่อดำเนินคดีจนถึงที่สุด ไม่ใช่แค่ลงบันทึกประจำวัน แต่ต้องขอให้ตำรวจออกคำสั่งอายัดบัญชีให้เราด้วยนะ
4.ถ้ายังติดต่อไม่ได้ หรือไม่ยอมรับ ต้องทำอย่างไร
ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ที่ซื้อของ ส่งหลักฐานใบแจ้งความและหลักฐานอื่น ๆ ให้ เช่น หมายเลขกระทู้ username เพื่อให้ผู้ดูแลเว็บไซต์ตรวจสอบ IP Address
จากนั้นนำหลักฐานที่เป็นประโยชน์ต่อการติดตามตัวคนร้ายทั้งจากธนาคารและผู้ดูแลเว็บไซต์ให้กับตำรวจที่ดูแลคดีเรา ที่เหลือเป็นขั้นตอนกระบวนการตามกฎหมายต่อไป
การจะได้เงินคืนหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับกระบวนการและขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ แต่อย่างน้อย วิธีการจัดการกับปัญหาทั้ง 4 ข้อนี้ จะเป็นการทำให้คนผิดไม่ลอยนวล หรือไปทำการหลอกลวงอีก และทางที่ดีก่อนจะช้อปออนไลน์ครั้งต่อไป ควรตรวจสอบให้มั่นใจว่าร้านค้าไม่มีประวัติการโกง โดยการนำชื่อร้านค้า ชื่อของผู้ขาย หรือเลขที่บัญชีไปตรวจสอบประวัติ ว่าเคยถูกร้องเรียนอะไรมาหรือไม่ เพื่อจะได้ทำการซื้อขายอย่างมั่นใจ