สุขภาพและกีฬา

ปรับวิธีการเลี้ยงลูกให้เท่าทันกับยุคสมัยกันดีกว่า

12/08/2563

เรื่องราวของไลฟ์สไตล์ในการเลี้ยงดูแต่ละครอบครัว พูดไปก็คงไม่มีทางที่จะหาจุดจบ ลงตัวแบบ Avenger End Game ได้อย่างแน่นอน เพราะในขณะที่พ่อแม่บอกรักลูกแบบธรรมดา ลูกของคุณอาจจะตอบกลับมาว่า รักนะ 3,000  จนทำให้คุณอึ้งเลยก็เป็นได้  ฮ่าๆ

 

พ่อแม่หลายคนก็ยังคงได้รับอิทธิพลการเลี้ยงและดูแลลูกมาจากคนรุ่นก่อนๆ อยู่ ซึ่งบางสิ่งอาจประยุกต์ใช้ได้ และก็มีบางอย่างที่เคยถูกในวันนั้นอาจกลายเป็นเรื่องผิดในวันนี้  อย่างความเชื่อเช่น รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี ถ้าปัจจุบันลองเลี้ยงลูกด้วยการตีอาจมีโดนงอนจากลูกก็ได้ มาลองสำรวจและปรับวิธีการเลี้ยงลูกไปพร้อมกันให้เท่าทันกับยุคสมัยกันดีกว่า
evoluationofkids-1.webp
ลองมาพิชิตใจลูก โดยเปลี่ยน Attitude ดูหน่อยมั้ย? เลี้ยงลูกอย่างมีชั้นเชิง ปรับมุมมองการเลี้ยงดูโดยไม่ใช้การบีบบังคับ เพื่อสร้างความไว้วางใจในการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ไม่แน่ลูกน้อยอาจจะยอมรับ และเชื่อฟังคุณมากขึ้นก็ได้ ดังวิธีต่อไปนี้

ชมเป็น ลูกจะเก่งขึ้นโดยอัตโนมัติ

รู้หรือไม่ ว่าแค่การชื่นชมของคุณ จะส่งให้เด็กจำฝังใจไปตลอดชีวิตได้ ถ้าคุณเป็นครอบครัวที่ชมลูกแบบนี้ เช่น เก่งจังเลยปรบมือให้ตัวเองหน่อยเร็ว, ดีมากเลยลูก แล้วจบลงแค่นั้นอยู่ล่ะก็ งั้นลองมาเปลี่ยนมุมมองใหม่ๆ ตั้งค่าระบบของตัวเองเสียใหม่ ไปดูเทคนิคการชื่นชม ที่สอนให้เด็กได้คิด และได้จดจำไปในตัว มีอยู่ 3 รูปแบบ 

1.ชมแบบเจาะจง

การที่คุณได้เห็นในสิ่งที่ลูกนั้นกำลังทำอยู่ หรือผ่านไปแล้ว เช่น บ้านสะอาดจังเลย เก็บกวาดบ้านให้แม่ด้วย เห็นแล้วก็หายเหนื่อยขึ้นมาเลย ขอบใจมากนะลูก ช่วยแม่ได้เยอะเลย มันอาจจะเป็นสิ่งที่พ่อและแม่ฝึกให้ลูกทำกันอยู่แล้ว แต่ก็สามารถชื่นชมเหมือนกับเป็นการให้กำลังใจลูก เพื่อให้เขาได้ซึมซับในสิ่งดีๆ ที่เขาได้ทำ

2.ชมที่กระบวนการ

เมื่อเห็นสิ่งที่ผิดแปลกของลูกจงอย่านิ่งเฉยในสิ่งที่เขาได้เปลี่ยนแปลงตัวเองแม้จะเป็นเรื่องเล็กอย่างการกลับบ้านเร็วก็ตาม เช่น วันนี้กลับบ้านเร็ว โดยที่ไม่ต้องให้แม่โทรตามเลย เป็นคนรักษาเวลาแบบนี้ ดีมากเลยลูก เป็นการชื่นชมที่แสดงให้เห็นถึงจุดประสงค์ในเรื่องความสำคัญของเวลา

3.ชมที่ความพยายาม

เมื่อไหร่ที่เห็นว่าลูกกำลังทำอะไรสักอย่าง ด้วยความตั้งใจจริง แต่อาจเกิดข้อผิดพลาดอยู่ สิ่งที่ควรทำนั่นก็คือการเข้าไปให้ถามในรูปแบบของการให้กำลังใจชื่นชมในความพยายามของเขา และแสดงถึงความเป็นห่วง เช่น ค่อยๆ ทำไปนะลูก เรื่องนี้มันยากหน่อย อ่านอย่างมีสติ ไม่เข้าใจตรงไหนถามพ่อกับแม่ได้นะ แค่นี้ก็เพิ่มแรงใจได้เช่นกัน

สิ่งสำคัญที่สุดคือ ‘เวลา’

ให้เวลาสำคัญกว่าให้เงินทองหรือของขวัญใดๆ สิ่งที่ครอบครัวสมัยนี้เป็นกัน คือการเลี้ยงดูลูกๆ โดยการใช้สิ่งของมาล่อตาล่อใจให้เด็กเชื่อฟังมาโดยตลอด แต่รู้ไหมว่าสิ่งที่เขาต้องการ จาก พ่อ และ แม่ ก็คือเวลาของครอบครัว เพราะถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญรองลงมาจากความรัก เขาอาจจะได้ประโยชน์อะไรอีกมากมายจากการมีกิจกรรมร่วมกันก็ได้นะ

                                          

เขาควรมีโลกของเขาจริงๆ

คนทุกคนควรมีพื้นที่ส่วนตัวเป็นของตัวเองกันทั้งนั้น เลิกตีกรอบทุกสิ่งทุกอย่างของลูก เปิดโอกาสให้ลูกของคุณได้ทำในสิ่งที่อยากทำ เลือกทางเดินด้วยตัวเอง หยุดสร้าง ราง ที่คุณต้องการ เพราะลูกไม่ใช่รถไฟ ที่คุณจำกัดเส้นทางในการเดินอีกต่อไป เมื่อเขาโตขึ้นคุณก็จะเข้าใจว่าการที่ได้เห็นสิ่งที่เขาทำมันอย่างมีความสุข แล้วประสบผลสำเร็จ มันเป็นความภาคภูมิใจต่อเขามากแค่ไหน

ให้เขาได้ตัดสินใจ แม้จะล้มเหลว หรือเจ็บปวด

 

เส้นทางแห่งความจริงไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ มันลำบากและต้องเจอกับอุปสรรคมากมาย พ่อ แม่ ที่ดี ควรเชื่อมั่นและอยู่เบื้องหลังในทุกการตัดสินใจ ต่อให้สิ่งที่เขาเลือกมันจะผิดก็ตาม จงเชื่อว่าเขาจะผ่านมันไปได้เพราะบางครั้งประสบการณ์ จะช่วยพยุงเขาให้ลุกขึ้นทุกครั้งที่ล้มลง

 

การเลี้ยงดูตามแบบฉบับคุณปู่ คุณย่า ที่ส่งต่อมาจากรุ่นสู่รุ่นนั้น อาจจะมีข้อดีในเรื่องของการสร้างวินัย การรู้จักให้รู้จักแบ่งปัน แต่บางสิ่งบางอย่าง ก็ดูเหมือนจะเป็นการเข้มงวดเกินไป จนกลายเป็นการตีกรอบให้เด็กรู้สึกไม่มีอิสระทางความคิดได้ แค่เปลี่ยนมุมมอง ก็ได้ใจลูกไปครองแล้ว

 

 และอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือการวางแผนอนาคตของตัวคุณเองเพื่อที่จะได้อยู่กับลูกไปนานๆ และการได้ทำให้ลูกเข้าใกล้ความสำเร็จได้มากที่สุด ซึ่งการวางแผนที่แนะนำคือการมีแผนประกับชีวิตที่จะสามารถดูแลทุกความต้องการของคุณได้  รวมทั้งยังคุ้มครองการเสียชีวิตทุกกรณี เบี้ยเริ่มต้นเพียง 2,200 บาท/ปี

ที่ความคุ้มครอง 1,000,000 บาท รวมทั้งสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามที่กรมสรรพากรกำหนด รายละเอียดเพิ่มเติมคลิกที่นี่