สุขภาพและกีฬา

ออฟฟิศซินโดรม เป็นแล้วไม่อ่อนโยนต่อร่างกาย

17/11/2563

งานประจำ รายได้ดี มีโต๊ะให้นั่งตามตำแหน่ง และทำงานไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง คุณสมบัติขั้นต้นที่คุณหาได้จากกลุ่มคนที่ถูกขนานนามตามสถานที่ทำงานว่า “พนักงานออฟฟิศ”

officesyndrome-1.jpeg

ระยะเวลามากกว่า 8 ชั่วโมงที่ชนกลุ่มนี้ต้องดำรงชีวิตอยู่ในสถานที่ทำงาน เบื้องหน้าของเขาคือคอมพิวเตอร์ ขนาบข้างด้วยเพื่อนร่วมงาน หลังพิงเก้าอี้ วางมือประจำตำแหน่งเดิมนั่นก็คือที่คีย์บอร์ด พิมพ์งานตามที่นายสั่งอย่างขะมักเขม้น ใบหน้าที่ก้มทำมุมกับหน้าจอ เงยหน้ามาอีกทีก็ฟ้ามืดไปแล้ว วิถีชีวิตที่วนเวียนสิ่งตอบแทนที่ได้รับคือเงินเดือนตามความสามารถ

 

ทำงานถวายหัว จนตัวป่วย

ด้วยเงื่อนไขของวัฏจักรการเลื่อนขั้น ถ้าคุณทำผลงานดี ก็มีโอกาสเติบโตสูง คนเราทำงานก็อยากได้เลื่อนขั้นกันทั้งนั้น จึงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าที่เรา Work hard กันอย่างทุกวันนี้ก็เพื่ออนาคตที่สดใสในหน้าที่การงานกันทั้งนั้น บางคมยอมทุ่มเทเวลาชีวิตทั้งหมดให้กับงานที่ทำ จนหลงลืมบางอย่าง อย่างการได้ใช้ชีวิตในมุมอื่นอย่างมนุษย์ทั่วไป ทำงานหามรุ่ง หามค่ำ ไม่หยุดพัก รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ร่างกายแสดงออกมาในรูปแบบอาการป่วย ทั้งป่วยโรค และป่วยทางกาย สุดท้ายหนีไม่พ้นเป็นโรคยอดฮิตประจำคนออฟฟิศอย่าง โรคออฟฟิศซินโดรม (Office syndrome)แต่ช้าก่อน!อยากให้รู้เอาไว้ว่าคุณนั้นก็ยังมีโอกาสเลือกที่จะไม่เป็นโรคนี้ได้ ถ้าคุณรู้วิธีการป้องกัน
officesyndrome-2.jpeg

พฤติกรรมนำพาสู่ ออฟฟิศซินโดรม

ต้นเหตุที่ก่อให้เกิดอาการของโรคนี้ มักมาจากลักษณะงานที่ต้องนั่งหน้าคอมพิวเตอร์หรือมีการทำงานด้วยท่าทางเดิมซ้ำๆอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ส่งผลโดยตรงต่อระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ เช่น คอ บ่า ไหล่ สะบัก อาการปวดมักปวดเป็นบริเวณกว้าง ไม่สามารถระบุตำแหน่งได้ชัดเจน บางคนอาจมีอาการปวดร้าวไปบริเวณใกล้เคียง หนักขึ้นก็จะมีอาการ ชา เป็นเหน็บร่วมด้วย พอปวดหนักๆจนเริ่มกระทบต่อการใช้ชีวิต ทางออกแรกๆของการบรรเทาอาการ ก็มักจะเป็นการไปหาหมอนวดให้ช่วยคลายความทรมานจากอาการนี้  หรือปวดจนทนไม่ไหวก็ไปหาหมอเพื่อทำกายภาพบำบัด

officesyndrome-3.jpg
officesyndrome-4.jpg

ถ้าคุณทำแบบนี้อยู่ อยากให้รู้ว่าควรปรับ  ไลฟ์สไตล์ในการทำงานที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ถ้าสังเกตดีๆคุณอาจจะเข้าข่ายเสี่ยงต่อการเป็นออฟฟิศซินโดรมก็ได้ เช็คได้จากพฤติกรรมตามนี้

  • นั่งหน้าคอมพิวเตอร์หรือทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งด้วยท่าทางซ้ำๆ เป็นเวลานานๆ
  • นั่งทำงานในท่าทางที่ไม่เหมาะสม ต้องก้มหน้ามองจอต่ำเกินไป หรือเงยหน้าจนปวดท้ายทอย
  • มีสภาพแวดล้อมหรืออุปกรณ์ในการทำงานไม่เหมาะสม โต๊ะสูงเกิน ไหล่ต้องยกตลอดเวลา หรือนั่งเก้าอี้ที่ไม่มีความสบาย
  • มีภาวะเครียดจากงาน พักผ่อนไม่เพียงพอ ไม่ค่อยได้มีการผ่อนคลายทั้งร่างกาย และ อารมณ์

จากพฤติกรรมต่างๆข้างต้น ถ้าคุณเป็นครบทุกข้อได้เวลาที่ต้องปรับพฤติกรรมเสียใหม่แล้วนะคุณ

 

เลี่ยงเพื่อลดความเสี่ยง

อยากที่บอกไปว่าออฟฟิศซินโดรมนั้น มาจากการใช้ชีวิตที่ผิดท่าผิดทางของพวกคุณนั่นแหละแต่ก็ใช่ว่าเราจะไม่มีวิธีในการหลีกหนีจากโรคนี้ทุกอย่างป้องกันได้ ถ้าเรารู้วิธี มาเริ่มกันเลย

  1. หันมาออกกำลังกายด้วยท่าที่เหมาะสมกับอาการ อย่างการยืดกล้ามเนื้อให้เกิดความยืดหยุ่น การออกกำลังกายเพื่อเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อโดยต้องอาศัยความใส่ใจและความสม่ำเสมอ
  2. ปรับสภาพแวดล้อมในการทำงาน โดยเริ่มจากการปรับหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในระดับสายตา รวมทั้งปรับระดับความสูงของโต๊ะและเก้าอี้ ให้สามารถนั่งทำงานในท่าที่สบายจะได้ไม่เมื่อย
  3. ข้อนี้สำคัญ นั่นคือการปรับเปลี่ยนการใช้งานกล้ามเนื้อให้เหมาะสม ควรมีการยืดเหยียดหรือเปลี่ยนอิริยาบถเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้ออย่างน้อยทุกๆ 1 ชั่วโมง เพื่อที่กล้ามเนื้อจะได้ไม่ทำงานหนัดจนเกินไป


ถึงแม้คุณจะเลี่ยงไม่ได้ แต่คุณก็เลือกการรักษาที่ดีที่สุดได้

ถ้าท้ายที่สุดคุณได้พยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้ว แต่ก็ยังคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงอาการเหล่านี้ได้ สิ่งที่เราต้องทำคือการยอมรับ หาวิธีเพื่อบรรเทาอาการเพื่อที่จะอยู่กับอาการพวกนี้อย่างเป็นมิตร และค่อย ๆ ทำการรักษาไปพร้อมกับการมีแผนประกันสุขภาพที่จะช่วยดูแลคุณ อีกทั้งเดี๋ยวนี้มีผู้เชี่ยวชาญมากมายในการดูแลรักษาอาการออฟฟิศซินโดรม ให้คุณสามารถเลือกรักษาในโรงพยาบาลที่ต้องการได้ ด้วยความคุ้มครองจากเอฟดับบลิวดี แผนประกันสุขภาพ เอฟดับบลิวดี พรีม่า แคร์ + โอพีดี พลัส ที่ดูแลการรักษาออฟฟิศซินโดรม ให้คุณด้วยข้อดี ดังนี้

  • ค่าห้อง และค่าอาหาร ค่าบริการในโรงพยาบาลมี 5 แผนให้เลือกได้ตามใจ สูงสุด 7,500 บาทต่อวัน 
  • หมดกังวลกับค่าธรรมเนียมการผ่าตัด คุ้มครองทั้งผ่าตัดเล็ก ผ่าตัดใหญ่ เหมาจ่ายตามวงเงินในตารางผลประโยชน์
  • ห่วงใย และพร้อมดูแล สำหรับการรักษาต่อเนื่องภายใน 30 วัน หลังออกจากโรงพยาบาล
  • รับส่วนลดเบี้ยประกันภัย 10% ในปีถัดไป หากไม่มีเคลม
  • แบ่งเบาค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอก (โอพีดี พลัส) มีแผนให้เลือกหลากหลาย สูงสุด 3,000 บาท 

ว่าไปแล้วก็นึกถึงประโยคที่ว่า “Work Life Balance” ที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ ประโยคนี้ก็ยังช่วยเตือนใจเราได้เสมอ ไม่เฉพาะกับแค่มนุษย์ออฟฟิศแต่กับทุกคนที่ใช้ร่างกันจนเกินลิมิต ลองหันมาดูแล ใส่ใจสุขภาพตัวเองกันดูบ้าง เพื่อที่เราจะได้สามารถมีโอกาสในการใช้เงินที่เราหามาได้ไปกับความสุขของตัวเองอย่างเต็มที่ เติบโตในหน้าที่การงานอย่างคนที่แข็งแรงทั้งร่างกาย และจิตใ