สุขภาพและกีฬา

5 ภูมิคุ้มกันจิตใจ สอนให้ลูกรักแฮปปี้

เพราะการเลี้ยงลูกให้แฮปปี้ฉบับพ่อแม่ยุคใหม่ มีอะไรหลายอย่างที่ต้องปรับจูนให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงของโลก ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องของการใช้ชีวิต เทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับยุคนี้ที่เป็นยุคของข้อมูลข่าวสาร สื่อต่าง ๆ ก็เข้ามามีผลกับเด็ก ๆ อยู่ไม่น้อย ดังนั้นการสร้างเกราะป้องกันจิตใจของลูกๆแข็งแกร่ง เพื่อให้สามารถรับมือกับสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ ก็เหมือนเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันจิตใจเพื่อให้พร้อมรับสถานการณ์และมีความสุขได้ในอนาคต และนี่คือ 5 ภูมิคุ้มกันจิตใจ ที่จะช่วยให้ลูกๆของคุณมีความสุข

 

1. รอได้ และแพ้เป็น

new-gen-parent1.webp

เพราะความเร็วของเทคโนโลยี อยากคุยตอนนี้ อยากเช็กข้อมูลตอนนี้ ทุกอย่างเหมือนเป็นมาตรฐานปกติที่จะได้รับการตอบสนองในทันที ทำให้การอดทนรอคอยกลายเป็นเรื่องไม่ปกติ การสอนให้เค้ารู้จักการได้รอคอยบ้าง เช่น อยากได้ของเล่น แต่ต้องทำการบ้านตลอดเทอมตรงเวลา และให้รางวัลตามเวลาที่เราบอกไว้เมื่อลูกทำตามเงื่อนไขครบถ้วน ก็จะช่วยให้เค้าเรียนรู้ในเรื่องของการอดทนรอได้ เช่นเดียวกันกับการแพ้ชนะ หลายครั้งที่พ่อแม่หลายคนอยากให้ลูกมีความสุข เช่นการยอมแพ้ในการเล่นเกมเพื่อให้ลูกชนะทุกครั้ง แต่จริงๆแล้วการให้เค้าได้เรียนรู้เรื่องการแพ้ไม่ใช่เรื่องน่าอับอาย แต่เปลี่ยนทัศนคติของลูกๆใหม่ว่าการแพ้ คืออีกวิธีของการสร้างความมุมานะ เพื่อที่จะทำเรื่องต่างๆให้ดียิ่งขึ้นไปอีกต่างหาก

 

2. มองความสุขให้เป็นเรื่องง่าย 

new-gen-parent3.webp

หลายครั้งสื่อต่างๆก็ทำให้ความสุขต้องแลกมาด้วยความบากบั่นพยายาม แต่จริงๆแล้วหากเราปรับทัศนคติการมองความสุขให้เป็นเรื่องง่าย แค่มีเวลาในการสนุกด้วยกันในวันเสาร์อาทิตย์ในบ้าน เช่นทำกับข้าว ทำขนม นั่งดูโทรทัศน์ ทำสวนด้วยกันก็เป็นเรื่องสนุกได้ หรือแม้แต่วันที่ไดให้ลูกรักของคุณได้รู้จักกับความเสียใจ และที่สำคัญต้องรู้ที่จะจัดการอารมณ์ของตนเองได้ สอนให้เขารู้จักให้อภัยตนเองและคนอื่น ไม่ยึดติดกับอารมณ์เสียใจของตนเอง หากลูกรักทำดีก็ต้องชม ดื้อซนก็ต้องมีการใช้เหตุผลเพื่อตักเตือน

 

3.ไม่จำเป็นต้องเก่งทุกเรื่อง

new-gen-parent4.webp

ขอแค่เขาได้รู้จักตัวตน เพื่อหาความสามารถของตนเองให้เจอ ถ้าเห็นว่าลูกรักของคุณชื่นชอบสิ่งใด ให้มองเป็นความพิเศษส่งเสริมความชอบของลูก เพื่อให้เขามีความสุข และเป็นความสามารถติดตัวของลูกรัก ให้เขาสามารถต่อยอดและพัฒนาความสามารถเมื่อเติบโตขึ้น ไม่แน่นะเค้าอาจจะมีพื้นฐานที่ดี มีความสามารถโดดเด่นเป็นพิเศษเลยก็ได้

 

4. ใช้เงินเป็น จัดการเงินได้

new-gen-parent5.webp

ส่วนนี้ให้เริ่มจากพ่อแม่ด้วยการวางพื้นฐานด้านการเงินให้ลูกเตรียมเอาไว้ จัดการวางแผนการเงินให้พร้อมสำหรับการเติบโต และสนับสนุนลูกรัก ให้พร้อมอยู่เสมอทั้งเรื่องการเรียน และการพัฒนาทักษะในการนำไปใช้เลี้ยงชีวิตได้ในอนาคต จากนั้นให้พ่อแม่สอนลูกเรื่องการเงินให้เขารู้จักใช้เงินเป็น หาเงินได้เอง ค่อย ๆ เรียนรู้ที่มาของเงิน

 

5. รู้จักดูแลสุขภาพ

new-gen-parent6.webp

ปูพื้นฐานจากการที่พ่อแม่ มีวางแผนเรื่องสุขภาพที่ชัดเจนให้ลูกสัมผัสได้ว่าเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะสัมผัสในการที่พ่อแม่ดูแลเรื่องอาหารการกิน และการดูแลเรื่องความสะอาดในการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อให้เห็นและทำตามจนเป็นนิสัย และที่สำคัญทำให้ลูกน้อยมีภูมิต้านทานของโรคและมีร่างกายที่แข็งแรง ส่งเสริมต่อพัฒนาการที่สมวัย เมื่อลูกไม่สบายต้องปรึกษาแพทย์ทุกครั้งเพื่อความสบายใจ เพราะลูกรักอาจจะยังไม่สามารถเล่าอาการได้ 100% ดังนั้นต้องมี ประกันสุขภาพ เอฟดับบลิวดี พรีเชียส แคร์ ฟอร์ คิดส์ ที่พร้อมให้ดูแลมากกว่า ด้วยค่าปรึกษาแพทย์เพิ่มเติม ดูแลจัดเต็ม ค่ารักษาผู้ป่วยนอก OPD เหมาจ่ายต่อปี ตามวงเงินสูงสุดของ OPD  ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ดูแลเพิ่มขึ้น หากเจ็บป่วยด้วย 3 โรคร้ายแรง และ 3 โรคร้ายแรงสำหรับผู้เอาประกันภัยที่เป็นเด็กรับเงินชดเชยเพื่อเป็นค่ารักษา และเพิ่มค่าห้องเป็น 2 เท่า ขึ้นอยู่กับแผนที่เลือก 

เด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า ถ้าเราช่วยบ่มเพาะและปลูกฝังสิ่งที่ดี ก็จะช่วยทำให้ลูกรักได้เติบโตไปมีอนาคตที่สดใส และสามารถใช้ชีวิตได้เต็มที่ในแบบที่เขาต้องการ

ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ