สถานการณ์โลกกับทองคำ
สถานการณ์หรือวิกฤตการณ์ของโลกที่ร้ายแรง เช่น ฟองสบู่แตก เศรษฐกิจตกต่ำ โรคระบาด หรือสงคราม มักจะส่งผลให้หุ้นในตลาดหุ้นปรับตัวลดลง ค่าเงินในบางประเทศอ่อนตัว และกราฟคริปโตฯ ตกเหวอยู่เสมอ แต่ทองคำจะเป็นสินทรัพย์ไม่กี่ชนิดที่มีราคาพุ่งสูงขึ้นสวนทางกับสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ
อย่างในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2565 วิกฤตสงครามรัสเซีย-ยูเครนก็มีผลต่อราคาทองเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ราคาทองพุ่งขึ้นสูงถึง 2,000 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ นักวิเคราะห์มองว่าหากสงครามยืดเยื้อก็มีสิทธิที่ราคาทองโลกจะขึ้นไปทำนิวไฮครั้งใหม่ สูงกว่า 2,074 เหรียญเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2653
ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งในประเทศพุ่งไปแตะ 31,150 บาท ซึ่งสูงกว่าตอนที่ราคาทองโลกทำนิวไฮครั้งก่อน เนื่องจากสถานการณ์เงินเฟ้อในประเทศที่ส่งผลให้เงินบาทอ่อนค่าอยู่ที่ 33.14 บาทต่อเหรียญ ในขณะที่นิวไฮครั้งก่อนเงินบาทมีมูลค่า 31.2 บาทต่อเหรียญ ทำให้ในตอนนั้นทองคำแท่งในประเทศมีราคาอยู่ที่ประมาณ 30,300 บาทเท่านั้น
เมื่อราคาทองปรับตัวสูงขึ้นนักลงทุนส่วนใหญ่ก็จะเทขายเพื่อเอากำไร ทดแทนการลงทุนประเภทอื่นๆ ที่ปรับตัวลดลง ดังนั้นหากความต้องการขายมาก ราคาทองก็มีโอกาสปรับตัวลดลงตาม ซึ่งในสถานการณ์แบบนี้นักลงทุนที่ต้องการซื้อทองเพิ่มเติมควรจะชะลอการลงทุนลงเพื่อป้องกันการขาดทุน และค่อยๆ ดูแนวโน้มราคาในอนาคตต่อไป